แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City Football Club) ก่อตั้งเมื่อปี 1880 ในชื่อ “เซนต์ มาร์กส์ (Gorton)” ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ในปี 1894 สโมสรเริ่มต้นการพัฒนาจากลีกระดับล่างและสามารถเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดในปี 1899 โดยมีประวัติที่เชื่อมโยงกับความสำเร็จและการเปลี่ยนแปลงหลายยุคสมัย

ในช่วงปี 1960s และ 1970s แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประสบความสำเร็จอย่างมาก ประวัติแมนซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของโจ เมอร์เซอร์ และมาร์ติน เบนบาวด์ ทีมคว้าแชมป์ลีก, เอฟเอ คัพ, และถ้วยยุโรป (Cup Winners’ Cup) ซึ่งทำให้ทีมกลายเป็นหนึ่งในสโมสรที่ได้รับการยอมรับในวงการฟุตบอลอังกฤษ แต่หลังจากนั้นผลงานของทีมตกต่ำลงในหลายปีถัดมา

ในปี 2008 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้รับการซื้อกิจการโดยกลุ่มนักลงทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งทำให้สโมสรมีการลงทุนในนักเตะชื่อดังและสร้างทีมที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในยุคของผู้จัดการทีม เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่เข้ามาคุมทีมในปี 2016 เป๊ปได้นำทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกหลายสมัย manchester city 45 และทีมยังได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกในปี 2023 ทำให้ทีมกลายเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีความแข็งแกร่งที่สุดในโลก

ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องและการพัฒนาทีมอย่างมีระบบในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นทีมที่มีการแข่งขันในระดับสูงทั้งในประเทศและระดับยุโรป ทีมยังคงสร้างชื่อเสียงและมีฐานแฟนบอลทั่วโลกที่คอยสนับสนุนความสำเร็จของสโมสร.

เกียรติประวัติ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์ลีกสูงสุด (ดิวิชั่น1 / พรีเมียร์ลีก) (8 สมัย) : 1936-37, 1967-68, 2011-12, 2013-14, 2017-18, 2018-19, 2020-21, 2021-22

แชมป์ดิวิชั่น 2 / แชมเปี้ยนชิพ (ลีกระดับสอง) (7 สมัย) : 1898-99, 1902-03, 1909-10, 1927-28, 1946-47, 1965-66, 2001-02

แชมป์เอฟเอคัพ manchester city 45 (6 สมัย) : 1903-04, 1933-34, 1955-56, 1968-69, 2010-11, 2018-19

แชมป์ลีกคัพ / อีเอฟแอลคัพ (8 สมัย) : 1969-70, 1975-76, 2013-14, 2015-16, 2017-18, 2018-19, 2019-20, 2020-21

แชมป์ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ (1 สมัย) : 1969-70

ชนะเลิศคอมมิวนิตี้ชีลด์ (6 สมัย) : 1937, 1968, 1972, 2012, 2018, 2019

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมตกถังข้าวสารที่มีความสำเร็จ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลของพวกเขาในฐานะทีมที่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมากนัก โดยก่อตั้งขึ้นในปี 1880 ในชื่อ “เซนต์ มาร์กส์ (Gorton)” ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ในปี 1894 สโมสรเคยอยู่ในสถานะที่ค่อนข้างธรรมดาในวงการฟุตบอลอังกฤษ โดยไม่สามารถคว้าแชมป์ใหญ่ๆ ได้จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงทศวรรษ 1960 ที่ทีมเริ่มประสบความสำเร็จในระดับชาติและยุโรป

ในช่วงปลายยุค 1960s และต้นยุค 1970s แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นทีมที่มีความแข็งแกร่งอย่างมากภายใต้การคุมทีมของโจ เมอร์เซอร์ และมาร์ติน เบนบาวด์ ทีมสามารถคว้าแชมป์ลีก (1968), เอฟเอ คัพ (1969) และถ้วยยุโรป (Cup Winners’ Cup, 1970) ทำให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในทีมที่ได้รับการยอมรับในอังกฤษและทั่วยุโรป แต่การคุมทีมที่ไม่คงเส้นคงวาและการเปลี่ยนแปลงในยุคถัดไปทำให้ทีมไม่สามารถรักษาความสำเร็จไว้ได้ในระยะยาว

เข้าสู่ทศวรรษ 2000s แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มตกอยู่ในสถานะที่ยากลำบาก หวยออนไลน์ วอ เลท ทีมต้องตกชั้นลงไปสู่ลีก 2 (Division 2) ช่วงสั้นๆ ก่อนจะกลับขึ้นมาในลีกสูงสุดอีกครั้ง ในปี 2008 สโมสรได้รับการซื้อกิจการจากกลุ่มนักลงทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งการเสริมทัพนักเตะชื่อดังและการลงทุนในด้านต่างๆ เพื่อสร้างทีมที่มีศักยภาพสูง

การมาของผู้จัดการทีม เป๊ป กวาร์ดิโอลา ในปี 2016 คือก้าวสำคัญที่ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นทีมที่เก่งที่สุดในอังกฤษและหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรป ภายใต้การนำของเป๊ป ทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีกหลายสมัย รวมถึงแชมป์ฟุตบอลถ้วยต่างๆ เช่น เอฟเอ คัพ และลีก คัพ และในปี 2023 ทีมก็ได้คว้าแชมป์ยูฟ่า หวยออนไลน์ ทรูวอลเล็ต  แชมเปียนส์ลีก สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญให้กับสโมสร

วันนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้กลายเป็นหนึ่งในทีมที่ร่ำรวยที่สุดในโลก มีความสำเร็จในทุกการแข่งขันที่พวกเขาร่วมลงสนาม นับตั้งแต่การลงทุนที่ก้าวล้ำไปข้างหน้าและการนำทีมสู่ความยิ่งใหญ่ในทศวรรษที่ผ่านมา ซิตี้ได้กลายเป็นทีมที่ไม่มีใครสามารถมองข้ามได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะในระดับชาติหรือระดับยุโรป.

แมนฯ ซิตี้เข้าร่วมฟุตบอลลีกในปี 1892 และคว้าถ้วยเอฟเอ คัพ เป็นรางวัลแรกของสโมสรในปี 1904

เว็บ หวย ออนไลน์ อันดับ 1 ปี 2567 แมนเชสเตอร์ซิตี้เข้าร่วมฟุตบอลลีกในปี พ.ศ. 2435 และคว้าแชมป์แรกคือเอฟเอคัพในปี พ.ศ. 2447 โดยเอาชนะโบลตันวันเดอเรอร์ส 1–0 ในรอบชิงชนะเลิศเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2447 ช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของสโมสรคือในช่วงทศวรรษ 1960 เมื่อสามารถคว้าแชมป์ลีก, คัพวินเนอร์สคัพยุโรป, เอฟเอคัพ และลีกคัพ ภายใต้การคุมทีมของโจ เมอร์เซอร์ และมัลคอล์ม อัลลิสัน แต่กลับทำผลงานตกต่ำลงหลังจากแพ้ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพในปี 1981 ให้กับท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ และตกชั้นไปเล่นในลีกระดับสามของพรีเมียร์ลีก (ปัจจุบันคือลีกวัน)

ในปี 1989 แมนฯ ซิตี้สามารถกลับมาอยู่ในจุดสูงสุดได้ด้วยผลงานที่พัฒนาขึ้น หวยออนไลน์ ทรูวอลเล็ต โดยจบอันดับที่ 5 ใน 2 ฤดูกาลติดต่อกันภายใต้การคุมทีมของปีเตอร์ รีด ในปี 1991 และ 1992 แต่โชคชะตาก็เล่นตลกกับพวกเขาอีกครั้ง แม้ว่าแมนฯ ซิตี้จะเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในสโมสรผู้ก่อตั้งพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับสูงสุดที่เปลี่ยนชื่อจากฟุตบอลดิวิชั่น 1 แต่ผลงานของพวกเขากลับลดลงอย่างต่อเนื่อง

ในปีพ.ศ.2539 พวกเขาอยู่บ๊วยของตารางและตกชั้น หลังจากลงเล่นในลีครองมา 2 ฤดูกาล พวกเขากลับกลายเป็นทีมที่มีคะแนนสะสมแย่ที่สุดของสโมสรในหนึ่งฤดูกาล (38 คะแนนจาก 38 เกม) นับตั้งแต่เข้าสู่ฟุตบอลลีก พวกเขาคือหนึ่งในสองสโมสรในยุโรปเท่านั้นที่สามารถคว้าแชมป์ถ้วยยุโรปมาได้ แต่เขาต้องถูกปรับตำแหน่งเพื่อไปเล่นในลีกระดับสามของประเทศ ติดตามต่อจากสโมสรแม็กเดเบิร์กของเยอรมนี

หลังจากตกชั้น นักธุรกิจชาวอังกฤษ เดวิด เบิร์นสไตน์ ได้เข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรคนใหม่ หวยออนไลน์ วอ เลท สถานะการเงินของสโมสรดีขึ้น และภายใต้การคุมทีมของโจ รอยล์ สโมสรก็สามารถเลื่อนชั้นกลับไปสู่ดิวิชั่น 2 และทำผลงานได้ดีเพียงพอที่จะกลับมาเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง

แต่พวกเขาก็ตกชั้นอีกครั้งในปี 2544 ซึ่งเป็นการตกชั้นครั้งสุดท้ายของสโมสรจนถึงปัจจุบัน ก่อนที่จะได้รับการเลื่อนชั้นอีกครั้งเป็นแชมป์ดิวิชั่นหนึ่งภายใต้การนำของเควิน คีแกน (ซึ่งเป็นลีกระดับสองในขณะนั้น) ในฤดูกาล 2001–02 โดยสร้างสถิติใหม่ ๆ มากมายให้กับสโมสร รวมทั้งสถิติคะแนนสูงสุดในฟุตบอลลีก และยิงประตูได้มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล

ฤดูกาล 2002–03 เป็นฤดูกาลสุดท้ายของแมนฯ ซิตี้ หลังจากเล่นที่เมนโร้ดตั้งแต่ปี 1923 ชัยชนะ 3-1 เหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุติสตรีคไร้ชัยชนะในแมนเชสเตอร์ดาร์บี้มา 13 ปี และช่วยให้แมนฯ ซิตี้ได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี 7777 lottery

บทความแนะนำ